การปลูกป่าถือว่าเป็นเรื่องที่เราควรหันกลับมาให้ความสนใจอย่างมาก เพราะว่าป่าเป็นต้นทุนทางธรรมชาติที่สำคัญอย่างมากประการหนึ่ง หากหมดป่ามนุษย์เราก็คงจะอยู่ไม่ได้แน่นอน วันนี้เราจะแนะนำผู้หญิงคนหนึ่งเธออยู่บ้านกลางป่ามานานหลายสิบปีความน่าประทับใจก็คือ นอกจากจะอยู่กลางป่าร่วมกับธรรมชาติได้แล้ว เธอยังช่วยปลูกป่ากว่าหมื่นต้นอีกต่างหาก
ย่ายิ้ม หญิงชราแกร่ง
เรื่องราวสุดประทับใจนี้ เราต้องเดินทางไปถึงบ้านท่าหนอง ตำบลหินหาด อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก ที่นั่นมีผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 88 ปี เธออาศัยอยู่บนบ้านกลางป่า กลางเขาอยู่เพียงแค่คนเดียวตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะสามารถอาศัยอยู่บนนั้นเพียงคนเดียวได้ ด้านครอบครัวเธอมีลูกทั้งหมด 5 คน โดยทั้งหมดต่างแยกย้ายไปสร้างครอบครัวของตัวเองมีเพียงแค่ 2 คนเท่านั้นที่ดูแลย่ายิ้มอยู่อย่างห่างๆ แม้ว่าทั้งหมดจะพยายามรบเร้าให้ย่ายิ้มลงจากเขาไปอยู่ด้วยกันด้านล่างแต่เธอก็ไม่ยอมไป
อาศัยอยู่กับธรรมชาติไม่ง่าย
ลองนึกภาพตามว่า คนแก่อายุเกือบ 90 ปี จะดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างไรในชีวิตประจำวันก็ว่ายากแล้ว แต่ย่ายิ้มคนนี้ให้เราเพิ่มความยากลงไปอีกนับ 10 เท่าเลย เพราะการอยู่กลางป่าของย่ายิ้มนั้นเป็นการอยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปาใช้ ทุกอย่างใช้ร่วมกับธรรมชาติทั้งหมด เสื้อผ้า น้ำจากแหล่งธรรมชาติ อาหาร ซึ่งไม่ง่ายเลย บนป่าชีวิตของย่ายิ้มไม่แน่นอนบางครั้งฝนตกหนักมากจนไม่สามารถออกบ้านได้ นั่นทำให้ย่ายิ้มต้องเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน กินได้แต่อาหารที่สำรองเอาไว้เท่านั้นบางครั้งข้าวสารที่เตรียมไว้ก็หมดจนต้องหาหัวกลอยป่ากินกับมะพร้าวคั่วเพื่อประทังชีวิตไปเท่านั้นเอง
ปลูกป่าสร้างฝาย
ไม่เพียงแต่อยู่กับป่าเท่านั้น ย่ายิ้ม ยังใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตปลูกต้นไม้ สร้างฝาย เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าแห่งนี้ให้อุดมสมบูรณ์มากขึ้น คาดการณ์กันว่า ย่ายิ้ม ปลูกต้นไม้ผ่านมาของตัวเองมาแล้วเกือบหมื่นต้นตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีบนเขา ไม่เพียงเท่านั้น ย่ายิ้มยังใช้เวลาที่เหลือทำฝายชะลอน้ำอีกด้วย โดยมีฝายกว่า 16 แห่งเกิดขึ้นจากฝีมือคุณย่าคนนี้ จากการคำนวณสิ่งที่คุณย่าทำทั้งการปลูกป่าและสร้างฝาย ได้ช่วยให้คนอีกหลายร้อยครอบครัวที่อยู่ด้านล่างมีน้ำใช้ทั้งการดำรงชีวิตและการเกษตร ก็ได้แต่หวังว่าสิ่งที่ย่ายิ้มทำไว้จะเป็นตัวอย่างให้ลูกหลานได้สืบสานต่อไปในอนาคตอีกนานแสนนาน