
ขั้นตอนสู้ความสำเร็จของเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวน้ำหอม
ก่อนอื่นเรามาดูตั้งแต่ขั้นตอนแรกๆกันเลยครับ ขั้นตอนแรกเราต้องเลือกหาต้นกล้ามะพร้าวน้าหอมที่มีความสมบูรณ์และแข็งแรง โดยจะไปหาซื้อตามพื้นที่ที่เพราะปลูกต้นกล้าโดยเฉพาะ ความสมบูรณ์ของต้นกล้ามะพร้าวน้ำหอมนั้นจะมีราคาแตกต่างกันไปตามความเหมาะสม เช่น ต้นกล้าเกรด A จะมีราคาต่อต้นละ 15 บาท ส่วนเกรด B ต้นละ 14 บาท เกรด C 13 บาท เป็นต้น จากนั้นก็เลือกจำนวนต้นตามที่จะปลูกในพื้นที่ที่มีอยู่ เช่น มีที่อยู่ 1 ไร่ จะสามารถปลูกต้นมะพร้าวได้ 270 ต้น โดยทั่วไปจะปลูกในระยะห่าง 2×3 เมตร หรือจะปลูก 2×2 เมตร ต่อไร่ก็ได้จะได้ไร่ละ 400 ต้น โดยประมาณ พอได้จำนวนต้นกล้าตามที่ต้องการแล้ว ก่อนอื่นเราต้อง ไถแปร พรวนดิน ให้มีร่องหรือรางน้ำเอาไว้ปล่อยน้ำให้อยู่ในสวนเพื่อเอาน้ำไว้ใช้รดน้ำต้นมะพร้าวนั้นเอง พอได้ร่องสวนแล้วจากนั้นก็จะถึงขั้นตอนขุดดินตามระยะที่เราได้กำหนดไว้เพื่อที่จะนำต้นกล้าลงไปปลูก พอขุดดินเสร็จแล้วก็จะถึงขั้นตอนการนำต้นกล้ามะพร้าวน้ำหอมลงไปปลูกแล้วกลบดินให้เสร็จสมบูรณ์ จากนั้นก็ควรที่จะลดน้ำโดยประมาณ 4 ครั้ง ต่อ 1สัปดาห์ และควรเลือกใส่ปุ๋ยที่มีสูตรที่เหมาะกับมะพร้าในปีนั้นๆ เช่น มะพร้าวปีแรกๆ จะใช้ปุ๋ยสูตร 8-24-24 /20-8-20 โดยจะใช้ต้นละประมาณ 1 กิโลกรัม เพื่อเป็นการฟื้นฟูหรือเป็นสูตรปรับสภาพดิน ชาวสวนบางรายก็มีสูตรการดูแลรักษาที่แตกต่างกันออกไป บางก็ว่าใส่ขี้ค้างคาวจะทำให้ออกผลได้ดก บางก็ว่าให้ใช้ขี้วัว บางก็ให้ใส่เกลือจะทำให้น้ำของมะพร้าวมีรสชาติหวานหรือรสชาติดี
โดยหลังจากปลูกต้นกล้ามะพร้าวน้ำหอมนั้นจะสามารถออกผลหลังจากนั้น 3-4 ปีในปีที่ 5 จะออกได้เยอะมาก ถือว่าเป็นปีที่ออกผลผลิตได้อย่างเต็มตัว มะพร้าวที่โตเต็มที่แล้วจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 20 นับจากการตัดของชุดที่แล้ว ดังนั้น มะพร้าวจะเก็บได้โดยที่มีเวลาหากกันแค่ 20 วันเท่านั้น ยิ่งทุกวันนี้มะพร้าวน้ำหอมได้เป็นผลไม้ที่เป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก ชาวสวนส่วนใหญ่จะไม่ขาดทุนกับการทำสวนมะพร้าว แต่ในทางกับกันถ้าสวนไหนออกในช่วงที่ราคาดี ก็จะสามารถทำกำไรได้มากมายมหาศาลเลยที่เดียว บางครั้งชาวสวนเคยได้ราคาสูงถึง ลูกละ 20 บาทจากสวนกันเลยทีเดียว ถือได้ว่าเป็นความสำเร็จของเกษตรกรกันก็ว่าได้